Transformers 3 - อีกหนึ่ง ความมันส์ บ้าระห่ำ (ที่ยังไม่ลงตัว) ของ ไมเคิล เบย์
คงไม่ต้องสาธยายอะไรกันมากมายสำหรับหนังแอ็คชั่น ไซไฟ สงครามหุ่นยนต์ ขวัญใจมหาชนเรื่องนี้ เพราะดูจากรายได้ทั่วโลกของหนังสองภาคแรกที่ทำได้รวมกันไปกว่า 1,500 ล้านดอลล่าร์ คงเป็นเครื่องการันตีได้เป็นอย่างดีแล้วว่า Transformers เป็นที่นิยมชมชอบจากคอหนังขนาดไหน...
มาถึง Transformers 3 จะว่าไป เปรียบเป็น "แม็ตช์ล้างตา" ของไมเคิล เบย์ ก็ว่าได้ เพราะย้อนกลับไปตอน Transformers 2 หนังถูกนักวิจารณ์สับเละไม่มีชิ้นดี ซึ่งตัวผู้กำกับเองก็ออกมายอมรับโดยสดุดีว่า หนังภาคสองมันดร็อปลงไปจากภาคแรกจริงๆ โดยเฉพาะในส่วนของบทและเนื้อเรื่องที่ไม่ได้รองรับฉากแอ็คชั่นที่ออกมาเยอะแบบตะพึดตะพือ (เยอะชนิดที่คนบ่นว่าดูไม่ทัน) ซึ่งส่วนนี้เป็นส่วนที่ถูกว่ามากที่สุด
และนั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้เบย์ พยายามทำให้ Transformers 3 ดูนิ่ง ดูสุขุม ดูเคร่งขรึม ขึ้น ด้วย บท และ เนื้อเรื่อง ที่พยายามปูให้คนดูได้รับรู้ในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของหนังไม่ว่าจะเป็น การบอกคนดูว่า โลกเข้ามาเกี่ยวข้องกับสงครามหุ่นยนต์ระหว่าง ออโตบ็อทส์ และ ดีเซ็ปติค่อน ตั้งแต่สมัยสงครามเย็น อันเป็นสาเหตุทำให้อเมริกาส่งยานอพอลโล่ 11 ขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์ (ซึ่งเป็นที่มาของชื่อตอนของภาคนี้ว่า Dark of the Moon) หรือ การที่เบย์ พยายามทำให้ตัวละครสำคัญอย่าง แซม มีความขัดแย้งในตัวเองมากขึ้น โดยในหนังภาคนี้ แซม เลิกกับ มิคาเอลล่า (แฟนเก่าซึ่งรับบทโดย เมแกน ฟ็อกซ์) แล้วมาคบกับ คาร์ลี่ (รับบทโดย โรซี่ ฮันทิงตัน-ไวท์ลี่ย์ ) แฟนใหม่ที่หวังจะให้ แซม กลับมาใช้ชีวิตปกติแบบคนธรรมดาๆ ไม่ใช่ฮีโร่ผู้กอบกู้โลก ซึ่งระหว่างที่ แซม กำลังพยายาม หาการ หางานทำ สร้างอนาคต แต่แล้วก็มีเหตุให้เขาต้องกลับไปร่วมในสงครามหุ่นยนต์ที่ยังไม่สิ้นสุดอยู่ดี
ซึ่งถึงแม้ เนื้อเรื่อง ที่พยายามใส่ลงไปใน Transformers 3 สุดท้ายจะเป็นแค่การ ปูพื้น ให้แก่คนดูซะมากกว่าว่า เรื่องของเรื่องมันเป็นแบบนี้นะ เอาล่ะ เตรียมตัวไว้...เดี๋ยวจะเอาหุ่นยนต์ตัวยักษ์มาซัดกันให้ดู และแม้การ ปูพื้น ที่ว่าดู จะ ยืด จนทำให้หนังดู อืด ในช่วงกลางๆ เรื่อง แต่ทั้งหมดก็เป็นอะไรที่พอรับได้ถ้าคิดว่า อย่างน้อยๆ Transformers 3 ก็มีความหนักแน่น มืดหม่น จับต้องได้มากขึ้น และตัวละครก็ดูมิติมากกว่า หากเทียบกับภาคก่อนๆ โดยเฉพาะภาคสอง
เมื่อพูดถึงความนิ่ง ความสุขุม นอกเหนือจาก บท และ เนื้อเรื่อง แล้ว ฉากแอ็คชั่นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ดูแล้วมี ความนิ่ง และ สุขุม ขึ้น อย่างเห็นได้ชัดเช่นเดียวกัน เอาง่ายๆ เลยก็คือ หากสังเกตกันดีๆ ใน Transformers 3 มีการใช้ภาพสโลว์มากขึ้น โดยเฉพาะในฉากแอ็คชั่นสำคัญๆ ที่เราจะเห็นหุ่นยนต์ ขยับเขยื้อน เคลื่อนไว ช้าลง เห็นฉากต่อสู้กันแบบจะๆ เน้นๆ สัมผัสได้ถึงความมันส์ สะใจ แบบเต็มอารมณ์ยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่ดู Transformers 2 แล้วบ่นว่า ฉากแอ็คชั่นเยอะเกินไป แถมยังตัดต่อฉึบฉับ เปลี่ยนเฟรมกันแบบฉากต่อฉากจนดูแทบไม่ทัน มาใน Transformers 3 คงจะไม่เกิดความรู้สึกอย่างที่ว่าแล้ว
แน่นอนว่า สิ่งที่ดีที่สุดของ Transformers 3 คงไม่พ้นเรื่องของ ภาพ ซึ่งอย่างที่เราทราบๆ กันว่า หนังภาคนี้ถ่ายทำด้วยกล้อง 3D (แบบเดียวกับ Avatar) ทั้งเรื่อง และถึงแม้ว่า ไมเคิล เบย์ จะออกมาให้สัมภาษณ์ว่าไม่ถนัดการถ่ายหนังด้วยกล้อง 3D สักเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนว่าเขาก็สามารถใช้เทคนิคที่ว่านี้ได้อย่างเต็มศักยภาพ พิสูจน์ได้ด้วย 40 นาทีสุดท้ายของหนังเรื่องนี้ที่ หุ่นยนต์ฝ่ายออโตบอทส์ และ มนุษย์ ระเบิดมหาสงคราม กับ หุ่นยนต์ฝ่ายดีเซปติค่อนส์ โดยมีเมือง ชิคาโก เป็นสมรภูมิรบ ซึ่งนี่คือ จุดพีคที่สุด ของหนังเรื่องนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
เหนือสิ่งอื่นใด 40 นาทีสุดท้ายของ Transformers 3 ก็คือการ โชว์ของ ที่ไมเคิล เบย์ แสดงให้เห็นว่า เขายังคงเป็นผู้กำกับหนังแอ็คชั่นมือลำดับต้นๆ ของวงการอยู่วันยังค่ำ! แถมยัง โชว์เหนือ ให้เห็นอีกด้วยว่าเขาสามารถทำหนัง Transformers 3 ในระบบ 3D ออกมาได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กับที่ เจมส์ คาเมรอน เคยทำไว้ใน Avatar เลยทีเดียว!
อีกสิ่งหนึ่งที่แฟนๆ Transformers พูดถึงกันมากก็คือ นางเอกของเรื่องที่เปลี่ยนจาก เมแกน ฟ็อกซ์ (ที่โดน เบย์ ตะเพิดออกไปจากโปรเจ็กต์เพราะทำตัวมีปัญหา) มาเป็น โรซี่ ฮันทิงตัน-ไวท์ลี่ย์ เมื่อพูดถึงความเซ็กซี่ อันนี้ก็คงแล้วแต่รสนิยมของแต่ละคน แต่ถ้าพูดถึงบทบาทการแสดง โดยส่วนตัวคิดว่า โรซี่ ทำได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียวกับหนังเรื่องแรกในชีวิตของเธอ มิหน่ำซ้ำพอดูหนังไปเรื่อยๆ ยังรู้สึกว่าตัวเองหลงเสน่ห์ แม่สาวหุ่นอวบ ปากอิ่ม นางนี้เข้าซะแล้ว...
เอาแค่ฉากเปิดตัว คาร์ลี่ (รับบทโดย โรซี่) ที่เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเป็นชุดนอน เดินโยกย้ายส่ายสะโพกมาปลุก แซม หวานใจบนเตียง ก็น่าจะทำให้หนุ่มๆ หลายคนเคลิบเคลิ้มกันไปบ้างไม่มากก็น้อย..
โดย...ทอม แฮนเซ่น
http://www.majorcineplex.com/movie_detail.php?mid=738
มหากาฬความมันส์! ที่สุดของอภิมหากาพย์สงครามหุ่นยนต์!
สิ้นสุดการรอคอยเสียที! ระเบิด ความมันส์ สะใจ! กับมหากาพย์สงครามครั้งยิ่งใหญ่ ที่สุดแห่งภาพยนตร์แอ็คชั่นไซไฟ แห่งปี 2011 สุดยอดยิ่งกว่าด้วยระบบ 3 มิติ และ ซีจี ที่ทันสมัยกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา! หนังจะ ตื่นเต้น เร้าใจ แค่ไหน? ไปดูกันเลย....
อีกครั้งกับหนังที่คนทั้งโลกรอคอย!ย้อนกลับไปเมื่อปี 2007 แฟนหนังทั่วโลกได้รู้จัก ภาพยนตร์แอ็คชั่น ไซไฟ มหาสงครามหุ่นยนต์ Transformers เป็นครั้งแรก และหนังแฟรนไชส์ของผู้กำกับ ไมเคิล เบย์ เรื่องนี้ทำเงินทั่วโลกไปกว่า 709 ล้านดอลล่าร์ และด้วยความสำเร็จขนาดนั้น ทำให้หนังภาคสองที่มีชื่อว่า Transformers 2: Revenge of the Fallen ออกฉายแบบตามมาติดๆ ในปี 2009 โดยหนังภาคนี้ถล่มรายได้ทั่วโลกไปกว่า 836 ล้านดอลล่าร์ จนกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดประจำปี 2009 ในอันดับสองรองจาก Avatar
ในเมื่อเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จมากมายขนาดนี้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจที่ภาค 3 ของหนัง Transformers 3 : Dark of The Moon จะกลายเป็นหนังที่แฟนๆ ทั่วโลก ตั้งตารอคอยแบบใจจดใจจ่อ ชนิดนับถอยหลังว่าเมื่อไหร่จะเข้าฉายเสียที และบัดนี้ การรอคอยที่ว่านั้นก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว...
บทหนักแน่น แอ็คชั่นขั้นเทพ!
Transformers 3 จะมีเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น จริงจังขึ้น โดยบทของหนังภาคนี้ใช้เวลาการขัดเกลาอยู่นานถึง 8 เดือน เพื่อให้ฉากแอ็คชั่นสุดระห่ำซึ่งเป็นจุดเด่นของหนัง มีเนื้อหาหนักแน่นรองรับอย่างสมเหตุสมผล โดยเรื่องราวใน Transformers 3 จะเท้าความกลับไปในยุค 60 ที่เปิดเผยว่า การที่อเมริกาส่งยานอพอลโล่ 11 ขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์ครั้งแรกนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นการส่งขึ้นไปตรวจสอบซากยานอวกาศที่ตกบนดวงจันทร์ ส่วนหนึ่งก็คือ อาร์ก ซึ่งเป็นที่เก็บเทคโนโลยีที่สามารถเช่วยเผ่าพันธุ์ของหุ่นยนต์ต่างดาวได้ ในขณะที่ยุคปัจุบัน แซม วิทวิคกี้ (ไชอา ลาบัฟ) พยายามดำเนินชีวิตให้เป็นปกติเหมือนคนทั่วไป
เขาเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย และกำลังหางานทำ ที่สำคัญเขาได้เลิกรากับ มิคาเอล่า และได้พบกับ คาร์ลี่ แฟนใหม่ โดยที่การร่วมมือกับฝ่ายออโตบอทส์ ในการปกป้องโลก ก็ยังเป็นหน้าที่สำคัญของเขาเช่นเคยโดยฉากแอ็คชั่นที่ใหญ่ที่สุดของ Transformers 3 ก็คือฉากไคลแม็กซ์ที่หุ่นยนต์ฝ่ายดิเซ็ปติคอนส์บุกถล่มเมือง ชิคาโก ซึ่งไมเคิล เบย์ ลงทุนถ่ายฉากนี้กันที่เมือง ชิคาโก จริงๆ เลยทีเดียว
ที่สุดของไมเคิล เบย์ กับ กล้อง 3D แบบเดียวกับ Avatar
Transformers 3 เป็นหนังภาคแรกที่ถ่ายทำด้วยกล้อง 3D แบบเดียวกับหนัง Avatar โดยได้ทีมงานจาก Avatar มาคอยให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด เมื่อนำมาผสมผสานกับหนังแอ็คชั่นสไตล์ ไมเคิล เบย์ ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงทำให้ Transformers 3 เป็นหนัง 3D ที่ไม่เหมือนใคร! ถึงขนาดที่ทั้งผู้กำกับและนักแสดงต่างพากันออกมารับรองว่า Transformers 3 จะเป็นภาคที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด โดยเฉพาะ 30 นาทีสุดท้ายซึ่งว่ากันว่า คือฉากแอ็คชั่นที่บ้าพลังที่สุดเท่าที่ผู้กำกับ ไมเคิล เบย์ เคยทำมาเลยทีเดียว!!!
ตัวละครหน้าเก่ายังอยู่ ตัวละครหน้าใหม่เพียบ
อย่างที่เราทราบๆ กันว่า นางเอกใน Transformers 3 เปลี่ยนจาก เมแกน ฟ็อกซ์ (ซึ่งเคยรับบทเป็น มิคาเอล่า) มาเป็น โรซี่ ฮันทิงตัน-ไวท์ลี่ย์ โดยเธอจะมารับบทเป็น คาร์ลี่ย์ แฟนใหม่ของแซม อย่างไรก็ตาม ตัวละครหลักๆ ที่คุ้นเคยกันดีตั้งแต่ภาคแรกอย่าง แซม, พ่อ แม่ ของแซม (เควิน ดันน์ และจูลี่ ไวท์), ซิมม่อน (จอห์น เทอเทอโร่), โรเบิร์ต เอ็ปป์ส (ไทรีส กิ๊บสัน), วิลเลี่ยม เลนน็อกซ์ (จอช ดูฮาเมล) ยังอยู่กันครบ นอกจากนี้ ใน Transformers 3 ยังเสริมด้วยตัวละครหน้าใหม่อย่าง ฟรานเซส แม็กดอแมนด์ ในบทเจ้าหน้าที่รัฐบาล, จอห์น มัลโควิช รับบทเป็นเจ้านายของแซม, แพทริค เดมป์ซีย์ ในบทของ เจ้านายของ คาร์ลี่ย์ แฟนใหม่ของแซม และ เคน จอง เกย์หน้าตี๋จอมแสบจาก The Hangover ก็มาโผล่ในหนังเรื่องนี้ด้วยนะเออ...
ส่วนฝั่งตัวละครหุ่นยนต์ หลักๆ ก็ยังอยู่ครบทั้งฝ่าย ออโตบอทส์ อย่าง อ็อปติมัส ไพร์ม, บัมเบิ้ลบี, ไอรอนไฮด์ เช่นเดียวกับฝ่าย ดิเซ็ปติคอนส์ อย่าง เมกาทรอนส์, สตาร์สครีม เสริมด้วย ต้วยหุ่นยนต์ตัวใหม่อย่าง เซนติเนล ไพร์ม ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของ อ็อปติมัส ไพร์ม และหุ่นยนต์ตัวร้ายที่ขึ้นจอเป็นครั้งแรกอย่าง ช็อกเวฟ
ทำไมถึงต้องดู
หนังฟอร์มยักษ์ ที่คอหนังทั่วโลกตั้งตารอคอยขนาดนี้ จะพลาดกันได้ยังไงล่ะจริงมั้ย? แถม Transformers 3 ยังเป็นภาคที่ถึงพร้อมกว่าหนังภาคก่อนๆ ทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของระบบ 3 มิติ และ ซีจี ที่บอกได้คำเดียวว่าจะทำให้คุณถึงกับ อึ้ง อย่างแน่นอน แต่ Transformers 3 จะสุดยอดขนาดไหน? คงไม่มีอะไรดีไปกว่า การไปพิสูจน์ให้เห็นด้วยสายตาตัวเอง!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น